วันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2563

โรคระบาดโควิด-19

 รายงานโรคระบาดโควิด-19

ที่มาของโรคระบาดโควิด-19

ต้นตอของไวรัสนี้น่าจะมาจากการที่ไวรัสของจากสัตว์ตัวกลางระบาดมาสู่คน ผู้ป่วยรายเเรกเท่าที่ทราบกัน เริ่มมีอาการตั้งเเต่วันที่ 1 ธันวาคม เเละไม่มีความเชื่อมโยงกับตลาดต้องสงสัยในเมืองอู่ฮั่นประเทศจีน เเต่ผู้ป่วยหลายารยอาจมีม่ตั้งเเต่ช่วงกลางเดือน พฤศจิกายน หรือก่อนหน้านั้น


วิธีป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19
ล้างมือบ่อยๆ โดยใช้สบู่และน้ำ หรือเจลล้างมือที่มีส่วนผสมหลักเป็นแอลกอฮอล์
รักษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากผู้ที่ไอหรือจาม
สวมหน้ากากอนามัยเมื่อเว้นระยะห่างไม่ได้
ไม่สัมผัสตา จมูก หรือปาก
ปิดจมูกและปากด้วยข้อพับด้านในข้อศอกหรือกระดาษชำระเมื่อไอหรือจาม
เก็บตัวอยู่บ้านเมื่อรู้สึกไม่สบายหากมีไข้ ไอ และหายใจลำบากโปรดไปพบแพทย์                                                                                                                                                                                                                                      เเนวโน้มการระบาด
การระบาดค่อยๆลดลง ในบางประเทศเเละบางประเทศก็ยังไม่ผ่านช่วงนั้นไป                                                                
ที่มา:https://covid19.thaipbs.or.th/timeline/

วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2563

3.3 ยุค 5G/6G , Iot , AI

  5G/6G ,  Iot  , AI

5G/6G

    คุณผู้อ่านคงเคยได้ยินคำว่า 5g กันมาบ้าง ซึ่งคำนี้บ่งบอกถึงความเร็วในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต รวมทั้งการสื่อสารที่มีความรวดเร็วสูง แต่คุณอาจจะยังไม่คุ้นเคยกับคำว่า 6g กันสักเท่าไหร่นัก เรามาดูกันดีกว่า6g นี้มีความสำคัญกว่า 5g อย่างไรและมีคุณสมบัติที่โดดเด่นในเรื่องใดบ้าง

   

 

      ระบบ 5นั้น มีการพัฒนามาอย่างก้าวกระโดดมากกว่า มาตรฐานของ 4ที่เราใช้อยู่ในปัจจุบันนี้เป็นอย่างมาก ความเร็วนั้นของ 5นั้นเหนือกว่าความเร็วของ 4เรียกได้ว่าไม่อาจเทียบกันได้เลย ความแตกต่างอันดับ 1 ก็คือในเรื่องของความเร็ว โดยในปัจจุบันนี้ 6กำลังอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนา แต่ก็มีการวิเคราะห์คาดการณ์กันว่าความเร็วของ 6นั้น ก็คือประมาณ 100 เท่าของ 5และจะมีในเรื่องของ AI เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

   ที่มา :https://www.uih.co.th/th/knowledge/5g

Iot

   Internet of Things (IoT) คือ การที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ สามารถเชื่อมโยงหรือส่งข้อมูลถึงกันได้ด้วยอินเทอร์เน็ตโดยไม่ต้องป้อนข้อมูลการเชื่อมโยงนี้ง่ายจนทำให้เราสามารถสั่งการควบคุมการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ตได้ ซึ่งแตกต่างจากในอดีตที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นเพียงสื่อกลางในการส่งและแสดงข้อมูลเท่านั้น

 

   นอกจากนั้น Cloud Storage หรือ บริการรับฝากไฟล์และประมวลผลข้อมูลของคุณผ่านทางออนไลน์ หรือเราเรียกอีกอย่างว่า แหล่งเก็บข้อมูลบนก้อนเมฆ เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราใช้งานบ่อยๆแต่ไม่รู้ว่าเป็นหนึ่งในรูปแบบของ Internet of Things สมัยนี้ผู้ใช้นิยมเก็บข้อมูลไว้ในก้อนเมฆมากขึ้น เนื่องจากมีข้อดีหลายประการ คือ ไม่ต้องกลัวข้อมูลสูญหายหรือถูกโจรกรรม ทั้งยังสามารถกำหนดให้เป็นแบบส่วนตัวหรือสาธารณะก็ได้ เนื่องจากเราไม่ต้องเสียเงินซื้ออุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล เช่น ฮาร์ดไดร์ฟ หรือ Flash drive ต่างๆ

ที่มา:https://www.aware.co.th/iot-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3/

 

AI

    คือเครื่องจักร(machine)หรือปัญญาประดิษ์ ที่มีฟังก์ชันทีมีความสามารถในการทำความเข้าใจ เรียนรู้องค์ความรู้ต่างๆ อาทิเช่น การรับรู้  การเรียนรู้ การให้เหตุผล และการแก้ปัญหาต่างๆ  เครื่องจักรที่มีความสามารถเหล่านี้ก็ถือว่าเป็น ปัญญาประดิษฐ์ นั่นเอง

     AI ตัวนั้นๆ เมื่อเปรียบเทียบกับมนุษย์อย่างเราๆAI ถูกจำแนกเป็น 3 ระดับตามความสามารถหรือความฉลาดดังนี้

   1 ) ปัญญาประดิษฐ์เชิงแคบ (Narrow AI ) หรือ ปัญญาประดิษฐ์แบบอ่อน (Weak AI) : คือ  AI ที่มีความสามารถเฉพาะทางได้ดีกว่ามนุษย์(เป็นที่มาของคำว่า Narrow(แคบ) ก็คือ AI ที่เก่งในเรื่องเเคบๆหรือเรื่องเฉพาะทางนั่นเอง)  อาทิ เช่น AI ที่ช่วยในการผ่าตัด(AI-assisted robotic surgery) ซึ่งผลงานวิจัยด้าน AI ณ ปัจจุบัน ยังอยู่ที่ระดับนี้


   2 ) ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป (General AI )  : คือ AI ที่มีความสามารถระดับเดียวกับมนุษย์ สามารถทำทุกๆอย่างที่มนุษย์ทำได้และได้ประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกับมนุษย์


   3) ปัญญาประดิษฐ์แบบเข้ม (Strong AI ) : คือ AI ที่มีความสามารถเหนือมนุษย์ในหลายๆด้าน


ที่มา:https://www.thaiprogrammer.org/2018/12/whatisai/

3.2 big data

Dig data 

Big data คือ

  Big data คือ ข้อมูลมหาศาลที่ซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ธรรมะดาไม่สามารถวิเคราะห์ได์อย่างมีประสิทธิภาพ 

 Big data ความสำคัญ

      Big data  ความสำคัญ  ช่วยให้คุณสามารถใช้ข้อมูลจากทุกแหล่งที่เป็นไปได้ และวิเคราะห์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คุณต้องการ ซึ่งช่วยให้คุณสามารถเข้าใจผู้บริโภคได้มากขึ้นลดต้นทุนได้ ลดเวลาระยะเวลาดำเนินการ และสามารถตัดสินใจได้อย่างแม่นยำมากขึ้น

Big data นำไปใช้อย่างไร

       Big data นำไปใช้อย่างไรข้อมูลขนาดใหญ่หรือ Big Data ช่วยให้เราสามารถจัดการงานทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้ตั้งแต่การเก็บข้อมูลของลูกค้าเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า เป็นต้น 

Big Data คืออะไร ?. ในยุคปัจจุบันที่โลกถูกขับเคลื่อนด้วยข้อม… | by ...

ที่มาhttps://www.khundee.com/big-data

3.1 วิทยาการข้อมูล(data science)

 


วิทยาการข้อมูล(data science)
 ศาสตร์ที่เกี่ยวกับการจัดการ จัดเก็บ รวบรวม ตรวจสอบ วิเคราะห์ วิจัย และนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำไปสู่ความรู้ที่สามารถนำไปใช้งานได้จริง
 อย่างเช่น การปรับปรุงผลิตภัณฑ์ กระบวนการดำเนินงาน ประกอบการตัดสินใจทางธุรกิจ 
โดยหลักการแล้ว Data Science ประกอบขึ้นจากศาสตร์หลักๆ คือ Hacking Skill   Statistic & Math Substantive Expertise Presentation และ Visualization 
Data Science ไม่ใช่ศาสตร์ใหม่ แต่มันคือการนำความรู้เดิมที่มีอยู่มารวมและประยุกต์เข้าด้วยกันจนเกิดเป็นของใหม่
ผลลัพธ์ที่ได้จาก Data Science 
 - ค้นพบสิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อนจากข้อมูลที่ได้
 - ได้ Predictive Model เพื่อนำไปปฏิบัติจริง
 - สร้าง Data Product ใหม่ๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจ
 - ช่วยให้ฝ่ายธุรกิจมีความมั่นใจและสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น

ที่มาของตำแหน่ง นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Scientist) 
 ตำแหน่งงาน Data Scientist ถูกตั้งขึ้นโดย  DJ Patil และ Jeff Hammerbacher ในปี 2008 โดยทั้งคู่เป็น ผู้บุกเบิกการสร้างทีม Data Science ที่ LinkedIn และ Facebook และตอนนี้ DJ Patil ได้รับแต่งตั้งให้เป็น Chief Data Scientist of the United States ไปเรียบร้อย

ทักษะที่ นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Scientist) ต้องมี 
 นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล ต้องมี ทักษะความรู้แบบสหวิทยาการ (Interdisciplinary) หรือมีองค์ความรู้ในหลากหลายด้าน  
1 ความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ (Computer Science)
2 ความรู้ด้านคณิตศาสตร์และสถิติ (Math&Statistics)
3 ความรู้เฉพาะสาขา (Domain Knowledge)
4 ความอยากรู้อยากเห็นและความคิดสร้างสรรค์ (Curiosity & Creativity)

อยากเป็น Data Scientist ควรเรียนอะไร?
 สำหรับคน ที่สนใจและตั้งใจอยากทำงานด้านนี้โดยตรง สามารถเรียนต่อระดับอุดมศึกษาในคณะหรือสาขาที่ช่วยให้เรารู้จักและเข้าใจการจัดการข้อมูลได้หลากหลายเช่นคณะวิทยาศาสตร์,คณะวิศวกรรมศาสตร์,คณะดิจิทัลมีเดีย,สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ,คณะการจัดการ,คณะบริหารธุรกิจ และคณะอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

Data Science กับอนาคตในตลาดงานประเทศไทย
 การ์ทเนอร์ (Gartner, Inc.) บริษัทวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศระดับโลกบอกว่า จะมีตำแหน่งงานด้านนี้เพิ่มขึ้นกว่า 4.4ล้านอัตราทั่วโลกภายในปี 2558 แต่จะมีบุคลากรที่พร้อมสำหรับตำแหน่งงานดังกล่าวเพียง 1 ใน 3 เท่านั้น

วันอังคารที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2563

1. ข้อมูลมีคุณค่า

 ข้อมูลมีคุณค่า


            ข้อมูลเป็นทรัพยากรณ์ที่ในปัจจุบันมีคุณค่าและมูลค่าสูง ทั้งที่ข้อมูลไม่ใช่ทรัพยากรณ์ที่ใช้แล้วหมดไป กลับกันข้อมูลนั้นเป็นทรัพยากรณ์ที่นอกจากจะไม่ลดลงแล้ว ยังเพิ่มขึ้นเกือบจะทุกๆนาทีด้วยซ้ำ

เหตุใดข้อมูลถึงเป็นทรัพยากรณ์ที่ผู้ประกอบการหลายคนต่างโหยหา?
เพราะธุรกิจของผู้ประกอบการต่างๆ นั้นขับเคลื่อนด้วยสองสิ่งนั่นคือตัวผู้ผลิตและผู้บริโภค และข้อมูลที่พวกเขาเหล่าๆนั้นต้องการก็คือข้อมูลของพวกเรา

ลองสมมุติว่าเราใช้ชีวิตตามปกติ ก็มีคนเอาสิ่งที่เราชอบเราอยากได้มาเสริฟให้เรา มีหรือที่เราจะไม่สนใจหรือกดเข้าไปอ่านหรือดูสินค้าเหล่านั้น
 
ตัวอย่างเช่น Google รู้ว่าเราชอบค้นหาอะไร
                     Facebook รู้ว่าเราชอบโพสต์แบบไหน
                    Lazada รู้ว่าเราอยากได้สินค้าแบบไหน
                    Youtube รู้ว่าเราชอบดูอะไร
                    ฯลฯ
ที่มา : https://www.longtunman.com/23098

ข้อมูลมีคุณค่า

 ข้อมูลมีคุณค่า

     ปัจจุบันข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ เป็นวัตถุดิบที่จะไม่สามารถหมดไปจะโลกได้ ถึงแม้เวลาจะผ่านไปหลาย 10ปี ก็จะยังไม่หายไป ต่างจะนํ้ามันที่เมื่อใช้ไปนานๆจะหมดดังนั้นข้อมูลจึงมค่ามากกว่านํ้ามันในปัตฃจจุบันนี้

   เป็นเรื่องประหลาดที่สิ่งที่มีค่ามากกว่าน้ำมันนั้นมีคุณสมบัติตรงข้ามกับน้ำมัน เพราะเป็นทรัพยากรที่ไม่มีวันหมดและดูเหมือนจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆแต่ถึงแม้มันจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นเท่าไรคุณค่าของมันกลับไม่ได้ลดลงเหมือนทรัพยากรทั่วไปแถมสิ่งนี้ไม่ได้มีตัวตนจับต้องได้ล่องลอยไปในอากาศขึ้นอยู่กับว่าใครจะใช้ประโยชน์จากมันให้มีประสิทธิภาพที่สุดทรัพยากรที่ว่านั้นก็คือ “ข้อมูล” ที่ใช้ทุกวันนี้

     ดังนั้น ในปัจจุบันจึงมีค่ามาก โดยข้อมูลจะเปลี่ยนไปตลอดเวลาซึ่งจะไปมีวันหมดเหมือนนํ้ามัน